หลายๆคนมักจะสงสัยว่า เวลาเราไปจ้างปักเสื้อ เช่น ปักชื่อบนเสื้อนักเรียน ปักโลโก้บริษัท หรือปักงานดีไซน์ต่างๆ โรงปักหรือร้านปักเสื้อเค้าคิดราคากันอย่างไร ราคาที่เราได้มานั้นแพงหรือถูกกันแน่นะ?
วันนี้ทางเอพีจะมาอธิบาย 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่าปัก นั่นก็คือ ขนาดของงานปัก จำนวนชิ้นงานที่สั่ง คุณภาพของงานปัก เทคนิคปักที่ต้องการใช้ และวัสดุที่ใช้
ปัจจัย 1: ขนาดของงานปัก (Embroidery Size)
ขนาดของงานปักถือเป็นปัจจัยที่เรียกได้ว่าสำคัญมากที่สุดของการประเมินงานปักเลยก็ว่าได้ เนื่องมาจากขนาดของงานปักส่งผลโดยตรงกับฝีเข็มที่ใช้ในการปักงานนั่นเอง ยิ่งงานมีขนาดใหญ่ ฝีเข็มที่ใช้ก็ยิ่งมาก นั่นหมายถึงต้นทุนด้านวัตถุดิบและเวลาก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ทำให้ราคาค่าปักก็จะสูงขึ้นตามมา
โดยปกติแล้วโรงปักจะขอให้ลูกค้าส่งภาพดีไซน์มาให้พร้อมระบุขนาดของงาน เพื่อจะนำไปประเมินเบื้องต้น ดังนั้นลูกค้าควรส่งภาพดีไซน์ที่เหมือนกับงานจริงที่ต้องการปักให้ได้มากที่สุด และบอกขนาดที่ต้องการ แต่ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจขนาด ทางเราก็แนะนำให้ลูกค้าลองแจ้งโรงปักให้ประเมินราคาสำหรับงานหลายๆขนาดมาเพื่อเป็นทางเลือกก็ได้เช่นกัน
ปัจจัย 2: จำนวนชิ้นงานที่สั่ง (Order Quantity)
ปัจจัยที่สองก็คือ จำนวนชิ้นงานที่สั่ง หรือที่คนเรียกติดปากกันว่า “จำนวนออเดอร์” นั่นเอง ตามหลักการแล้ว ถ้าเราสั่งงานจำนวนน้อย ราคาค่าปักต่อชิ้นจะแพง แต่ถ้าสั่งงานปักจำนวนมาก ราคาค่าปักต่อชิ้นก็จะถูกลงเรื่อยๆ
สาเหตุเพิ่มเติมที่จำนวนชิ้นงานที่สั่งนั้นมีผลต่อราคาค่าปักนั้นก็คือ
- ในการผลิตงานปักด้วยเครื่องดิจิตอลทุกครั้ง จะมีค่าการทำบล็อคปักในคอมพิวเตอร์เสมอ ซึ่งการทำบล็อคนั้นทางโรงปักจะคิดเป็นต้นทุนคงที่ เช่น 1,000 บาทต่อบล็อก (หรือถูกแพงกว่านั้นตามแต่ความยากง่ายของดีไซน์) ดังนั้นถ้าเราสั่งปักจำนวนน้อยชิ้น เราต้องแบกต้นทุนค่าคงที่นี้ ทำให้ราคาค่าปักต่อชิ้นค่อนข้างสูง
- เครื่องปักดิจิตอลนั้นปกติจะมีจำนวนหลายหัวปัก ตั้งแต่ 1-20 หัว ที่สามารถปักงานได้พร้อมๆกัน ดังนั้นถ้าเราสั่งงานจำนวนน้อย ค่าเสียโอกาสของการใช้เครื่องปักและค่าดำเนินการอื่นๆก็จะถูกรวมเข้าไปในราคาต่อชิ้นให้สูงขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าร้านปักมีเครื่องปักหัวเดียว ค่าเสียโอกาสเค้าก็จะน้อยกว่า จึงทำให้อาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าในกรณีที่สั่งจำนวนน้อย (แต่ในทางกลับกัน ถ้าสั่งจำนวนมาก ราคาของร้านปักที่มีหัวเดียวอาจจะไม่ได้ลดลงมากเช่นกัน)
ปัจจัยที่ 3: คุณภาพของงานปัก (Quality)
หลายๆคนมักจะมองข้ามปัจจัยเรื่องคุณภาพของงานปักไป แล้วเปรียบเทียบงานปักระหว่างแต่ละที่โดยมองแค่ว่าปักขนาดเท่ากัน ทำไมถึงราคางานต่างกันได้
อยากให้ลองนึกภาพตามเหตุการณ์ในการไปจ้างร้านหรือโรงปัก 2 ที่ ปักลายเดียวกันดูครับ
- โรงปัก A ปักโลโก้บริษัทที่ลายครบถ้วนสวยงาม ตัวหนังสืออ่านชัดเจน เก็บรายละเอียดงานปักครบทั้งด้านหน้าและหลัง
- โรงปัก B ปักโลโก้เดียวกัน ฝีเข็มห่างๆ มองพอจะเป็นลายโลโก้ แต่ว่าปักไม่ชัด ตัวหนังสือเบี้ยวๆ มีงานไม่ได้คุณภาพบ้าง
จากที่อ่านคิดว่าทุกคนก็คงพอจินตนาการได้ว่าราคาของโรงปักทั้งสองน่าจะไม่เท่ากันแน่นอน ด้วยสาเหตุของการใส่ใจในด้านคุณภาพของงานปัก โรงปัก A จะมีต้นทุนการตีบล็อกที่สูงกว่าให้ได้ลายปักที่รายละเอียดสวยงาม มีพนักงานตรวจสอบคุณภาพทุกชิ้นงาน และเอาใจใส่ในงานที่มากกว่า ทำให้ราคาน่าจะสูงกว่าโรงปัก B
อย่างไรก็ตามการเปรียบเทียบนี้มีเพื่อสะท้อนผลกระทบของคุณภาพต่อราคาเท่านั้น การเลือกใช้โรงปักไหนนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและงบประมาณของแต่ละคน
ปัจจัยที่ 4: เทคนิคปักที่ต้องการใช้ (Embroidery Techniques)
ในการปักนั้น ลูกค้าสามารถเลือกเทคนิคที่ใช้ปักลายของตัวเองได้หลากหลายมาก เช่น อยากปักให้ลายนูนแบบสามมิติ ก็จะเลือกใช้เทคนิค 3D Satin หรือว่าอยากให้งานมีลูกเล่นเพิ่มเติม ก็อาจเลือกใช้ผ้าปะมาเสริม
ตามหลักการก็คือ ถ้ายิ่งเทคนิคที่ใช้ยากขึ้นเท่าไร ราคาก็มักจะสูงขึ้นตาม เนื่องด้วยมีความยากในการทำบล็อกที่มากขึ้น ต้นทุนด้านวัสดุที่นำมาใช้เพิ่มขึ้น และค่าฝีมือค่าประสบการณ์ของคนที่ผลิตงานก็อาจจะส่งผลให้ราคาปักต่อชิ้นสูงขึ้นเช่นกัน
ปัจจัยที่ 5: วัสดุที่ใช้ (Materials)
ท้ายที่สุด วัสดุที่ใช้ปักก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลทางตรงต่อค่าปัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไหมหรือด้ายปักที่เลือกใช้
โดยปกติ เวลาเราไปตามร้านปัก เราอาจจะไม่ได้มีโอกาสเลือกยี่ห้อหรือประเภทของไหมปักมากนัก เพราะร้านจะนำวัสดุที่ร้านจัดเตรียมแล้วเอามาใช้ แต่หากคุณได้ลองไปตามโรงปักขนาดใหญ่ คุณจะสามารถเลือกยี่ห้อไหมหรือด้ายปักได้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อแต่ละประเภท จะมีเอกลักษณ์ ความสวยงาม และความโดดเด่นที่ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่น ไหมปัก ราคาไหมระหว่างยี่ห้อ Sakura COATS และ Madeira ก็จะมีความแตกต่างกันพอสมควร หรือถ้าในกรณีที่ลูกค้าอยากใช้ไหมปักออร์แกนิกที่ได้รับการรับรอง ราคาก็จะสูงขึ้นตามมา
บทสรุป
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านกันมาคงพบได้ว่า จริงๆแล้วราคาค่าปักเสื้อนั้นค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย ไม่ได้คำนวณแบบตรงไปตรงมาซะทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ การที่เรารู้ว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบของราคาค่าปักของเรา ก็จะช่วยเราในการคาดการณ์ค่าปักและช่วยในการตัดสินใจเลือกร้านปักที่เสนอราคาที่เหมาะสมกับงาน
ในกรณีที่เราอยากจะทราบราคางานปัก ทางเราก็จะแนะนำให้ลูกค้าแจ้งโรงปักทุกครั้งว่า ภาพดีไซน์เป็นอย่างไร จำนวนออเดอร์เท่าไร และมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ต้องการอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทางร้านปักประเมินได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม